Friday, October 15, 2010

Youth + Creativity

Youth + Creativity
ข้อคิดจากบอลโลก

แม้ทีมชาติสเปนจะสร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกที่ทีมจากทวีปยุโรปสามารถคว้าแชมป์นอกทวีปได้เป็นครั้งแรก
และเป็นทีมที่แพ้ในรอบแรกทีมเดียวที่คว้าแชมป์โลกได้
แต่ทว่าทีมที่ชิงซีนไปในทัวนาเม้นต์นี้ในความเห็นของผมก็คือเยอรมันและหมึกของเยอรมัน
สเปนนั้นเป็นเต็งหนึ่งตั้งแต่เริ่มต้น การได้แชมป์โลกนั้นก็สมควรแล้ว(ทั้งที่ยิงประตูได้น้อยเหลือเกิน) แต่เยอรมันชุดนี้ไม่ได้มีใครตั้งความหวังอะไรมากนัก อย่าว่าแต่แฟนบอลเยอรมันเลย กระทั่งชาวเยอรมันเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก
ดังนั้นเมื่อผลการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่บดอังกฤษ คู่แค้นตลอดกาลไปได้ 4-1 ทั้งๆที่ทีมสิงโตคำรามเต็มไปด้วยซุปเปอร์สตาร์อย่างเวย์น รูนี่ แลมพาร์ต เจอร์ราด เทอร์รี่ โคล
โลกต้องหันกลับมามองเยอรมันอีกครั้ง แต่ก็คิดว่าอังกฤษกับเยอรมันคู่นี้ใครชนะก็ต้องไปถูกอาร์เจนตินาเชือดอยู่ดี
เมื่อเยอรมันช็อกโลกอีกครั้งด้วยการบดอาร์เจนตินา ถึง 4-0
โลกต้องกลับมามองเยอรมันอีกครั้ง พร้อมๆกับมองหมึกพอล ผู้ทำนายผลบอลครั้งใดแทบไม่เคยพลาด(นัดเดียวที่ทายผิดก็คือนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรเมื่อสองปีที่แล้ว)
ชัยชนะของเยอรมันซึ่งไม่ได้มีสตาร์ดังคับทีมอย่างอังกฤษและอาร์เจนตินา ทั้งๆที่นักเตะวัยละอ่อนเต็มทีม แทบไม่มีซุปเปอร์สตาร์แม้แต่คนเดียว(แต่ระดับสตาร์มีนะ)
สะท้อนให้เห็นว่าโลกธุรกิจยุคนี้จะให้ความสำคัญกับ Youth มากกว่าประสบการณ์
กานาซึ่งเกือบจะเข้ารอบสี่ทีมสุดท้ายก็มีนักเตะอายุน้อยเต็มทีม เพราะสร้างทีมจากชุดเยาวชนโลก
ไม่ต้องพูดถึงสเปนที่ให้ความสำคัญกับการสร้างนักเตะรุ่นใหม่ๆเพื่อทดแทนรุ่นเก่าอยู่ตลอดเวลา
ในโลกธุรกิจ ผู้ประกอบการที่เปลี่ยนโลกล้วนเป็นคนหนุ่มวัยละอ่อนแทบทั้งสิ้น
Larry Page and Sergey Brin แห่ง google
ล้วนเริ่มต้นธุริจในวัยยี่สิบต้นๆเท่านั้น แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้คิดจะเป็นเพียงผู้ประกอบการสามัญเพื่อสร้างความมั่งคั่งเท่านั้น
แต่พวกเขาเหล่านี้ต้องการเปลี่ยนโลก
Mark Zuckerberg แห่ง FaceBook
Michael Dell แห่ง Dell
Steve Jobs แห่ง Apple
Bill Gates แห่งไมโครซอฟท์
หลังจากสตีฟ จ๊อบส์ สร้าง Apple Computer จยลงหลักปักฐานพร้อมที่จะบินแล้ว เขาได้ไปชวน John Sculley ซึ่งในเวลากำลังจ่อคิวจะขึ้นเป็น CEO Pepsi และเอ่ยปากชวนด้วยประโยคสะท้านโลกว่า “ Do you want to sell sugar water for the rest of your life or do you want to come with me and change the world?”
ประโยคนั้นแทงใจดำ Sculley แต่ก็ทำให้เขาคิดหนัก สุดท้ายเขาก็มาร่วมเปลี่ยนโลกกับสตีฟ จ๊อบส์จนได้
ซึ่ง Sculley นี่แหละที่ถีบจ๊อบส์ออกไปจากบริษัทที่เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ตอนแรกจ๊อบส์แค้นมาก ต่อเขาก็ได้ตระหนักในสัจธรรมแห่งชีวิต และพบว่าเมื่อ Connect the dot แล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น
และเมื่อกลับมา Apple อีกครั้ง งานของจ๊อบส์ก็ยังเหมือนเดิม นั่นคือ “เปลี่ยนโลก” ด้วย iPod iPhone และ iPad
เช่นเดียวกับสองผู้ก่อตั้ง Google เช่นกัน พวกเขาทั้งสองกำลังเปลี่ยนโลกด้วย Search Engine และสารพัดบริการฟรีที่ออกมาทุบหม้อข้าวคู่แข่งขัน แต่ผู้บริโภคได้ประโยชน์
ขณะที่ Mark Zuckerberg ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าพ่อหนุ่มคนนี้กำลังทำให้ Facebook ได้กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว
โลกกำลังแบ่งออกเป็นสองยุค คือยุคก่อนมี facebook และยุคหลังมี facebook
สำหรับบางคน Facebook เป็นยิ่งกว่าSocial Network
มันคือ Way of Life

สมการความสำเร็จของยุคนี้ก็คือ Youth + Creativity + Think BIG = Change The World

No comments:

Post a Comment