Friday, October 15, 2010

Before start trading

ไม่ใช่เซียนหุ้น ไม่ได้เล่นหุ้นเป็นอาชีพ ไม่ได้มีอาชีพเกี่ยวกับหุ้น แต่หงษ์สามย่านชอบที่จะศึกษาเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง ประสบการณ์จะสอนเรา มีคำกล่าวว่า “เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด” ประโยคนี้ยังคงใช้ได้ดีเสมอมาทุกยุคทุกสมัย ผมไม่อาจจะโอ้อวดตัวเองว่าเป็นผู้รู้ ช่ำชองในทุกๆ เรื่อง แต่ผมยินดีที่จะถ่ายทอดประสบการณ์และมุมมองต่างๆ เพื่อให้ทุกท่านที่สนใจได้เข้ามาศึกษาแลกเปลี่ยนมุมมอง แลกเปลี่ยนความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ และนี่เป็นโอกาสดีสำหรับท่านที่เพิ่งจะเริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆ ครับ เพราะผมเองต้องการถ่ายทอดมุมมองง่ายๆ ในการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะเล่นหุ้นซี่งสำคัญมาก ดังคำกล่าวที่ว่า “เริ่มดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” เรามาเริ่มกันเลยครับ
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนสำหรับผมใช้หลักการง่ายๆ ดังนี้ครับ
PPLI = สอง P หนึ่ง L หนึ่ง I
1.Philosophy (ปรัชญา) คืออะไร?
2.Psychology (จิตวิทยา) คืออะไร?
3.Logic (ตรรก) คืออะไร?
4.Imagination (จินตนาการ) คืออะไร?
1.Philosophy (ปรัชญา) คืออะไร?
Philosophy มาจากคำสองคำในภาษากรีกครับ คือคำว่า…
PHILOS แปลว่า ความรัก (LOVE)
และคำว่า…SOPIES แปลว่า ความรู้ (KNOWLEDGE) ความรู้นี้ต้องสามารถพัฒนาไปเป็น ปรีชาญาณ (WISDOM) ดังนั้น “ปรัชญา” จึงแปลอย่างง่ายๆ ในมุมมองของหงษ์…แปลว่า ความรักในความรู้ ก่อนอื่นเราจะรู้ได้ เราต้องมีความรักในสิ่งที่อยากรู้ก่อน เมื่อเรารักที่จะรู้แล้ว ความรู้นั้นๆ ก็ไม่ยากสำหรับการเรียนรู้อีกต่อไป เมื่อเรารู้แล้ว ความรู้นั้นไม่ควรเป็นแค่ความทรงจำ แต่ต้องพัฒนาไปเป็นความรู้ที่รู้แจ้ง เห็นจริง กลายเป็น SKILL อยู่ในตัวเรา เห็นปุ๊บรู้ปั๊บอย่างช่ำชอง
***ปรัชญาหุ้น ไม่ยากเลย ไม่ต้องไปมัวเสียเวลาดูเทคนิคขั้นเทพที่ไหน ขอให้เข้าใจคำว่า “ปรัชญา” ที่แท้จริงว่าคืออะไร?…ก็เริ่มต้นได้ดีแล้วครับ
2.Psychology (จิตวิทยา) คืออะไร?
จิตวิทยา เป็นเรื่องความรู้เกี่ยวกับจิตใจครับ…ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าตัวเราเองมีจิตใจ บุคลิคลักษณะนิสัยใจคอเป็นอย่างไร ใจเย็น ใจร้อน วู่วาม ฯลฯ เราก็คน เขาก็คน กองทุนก็มีคนคอยบริหาร บักสีดาก็เป็นคน เจ้ามือก็เป็นคน ในตลาดหุ้นคนเล่นหุ้นทุกคน เป็นคน ไม่มีใครเป็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้น จะไปกลัวอะไรกับคนเหมือนกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนอื่น เราต้องรู้จักตัวเองก่อน เมื่อเรารู้จักตัวเองแล้ว เราก็จะเรียนรู้ที่จะทำความรู้จักกับคนอื่นๆ กองทุน บักสีดา เจ้ามือ รู้ว่าเค้ามีวิธีการเทรดหุ้นอย่างไร รู้ว่าเมื่อไหร่เค้าจะซื้อ หรือ จะขาย เมื่อเรารู้เขาแล้ว ก็ไม่อยากที่จะเอาชนะเขาได้ รู้เขารู้เรา…
3.Logic (ตรรก) คืออะไร?
ตรรก คือ ความเป็นเหตุและเป็นผล ซึ่งมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน…จะเป็นเหตุผลที่ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้องนั้นแล้วแต่ แต่พื้นฐานแล้ว คนส่วนใหญ่ จะมีเหตุและผล เราถูกสอนมาให้นับ 1 2 3 4 5 X… มันคือเหตุและผล น้อยคนนักที่จะบอกว่า X คือเลข 7 คนส่วนใหญ่เกือบทุกคนจะบอกว่ามันคือเลข 6 นี่คือเหตุและผล แต่เพราะคนเราเป็นปัจเจกบุคคล คือ เราเป็นเรา เรา(ตัวเรา) ไม่ใช่สากล ดังนั้นเรารู้ว่าเกือบทุกคนมีเหตุและผล มันเป็นตรรก ตัวอย่างเช่น…
พ่อของนายเอมีลูกทั้งหมดห้าคนคนแรกชื่อ กา คนที่สองชื่อ ก่า คนที่สามชื่อ ก้า คนที่สี่ชื่อ ก๊า คนที่ห้าชื่อว่า…ไม่ต้องคิดมากเลยคนที่ห้าก็ต้องชื่อ ก๋า แต่ผิดถนัดครับคนที่ห้าชื่อ เอ ต่างหาก…นี่คือความเป็นเหตุและผลที่มีอยู่ในสมองของเราทุกคน
***เวลาเล่นหุ้นคนส่วนใหญ่จะบอกว่ามันจะวิ่งไปเท่าโน้นเท่านี้ หลายๆ คนก็เชื่อตามนั้น เพราะมีเหตุและผลที่จะทำให้หุ้นวิ่งมากมาย แต่สุดท้าย เหตุและผลนั้นๆ ก็ใช้กับคนส่วนใหญ่ไม่ได้ โดยเฉพาะกับนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ เพราะมันเป็นเหตุผลที่ผิด นี่คือ ตรรก ถ้าเข้าใจตรรกเราจะไม่ถูกรายใหญ่หลอก ครับผม…
4.Imagination (จินตนาการ) คืออะไร?
จินตนาการเป็นสิ่งสำคัญครับสำหรับการเล่นหุ้น…เพราะมันจะทำให้เราคิด มันคือการวางแผน มันคือการต่อยอดทางความคิด เราต้องรู้จักการจินตนาการ จินตนาการว่า…ถ้ามันเป็นแบบนี้ แล้วเราจะทำแบบนี้ ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้วเราจะทำแบบนั้น ถ้า Set มันวิ่งมาถึงตรงนี้แล้วเราจะทำอย่างนี้ ถ้า Set มันวิ่งลงมาถึงตรงนี้แล้วเราจะทำแบบนี้…ถ้า ถ้า ถ้า แล้วเราจะทำ แบบนี้ แบบนั้น แบบโน้น…และเราต้องทำตามจินตนาการของเรา เมื่อเราทำตามจินตนาการของเราและสำเร็จ เราต้องต่อยอดการจินตนาการไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ไม่มีที่สุดสุด ทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ – Continual Improvement (Infinity)
***เล่นหุ้นต้อง อย่ากลัวและอย่าโลภ
ใช้แนวทาง PDCA ในการพัฒนาการเล่นหุ้นให้ดีขึ้นเรื่อยๆ…
1.วางแผน PLAN
2.ทำตามแผน DO
3.ตรวจสอบสิ่งที่ได้ทำไป CHECK
4.พบข้อผิดพลาด หรือ ทำดีอยู่แล้ว ก็ต้องพัฒนา ปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาด และ ทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ACT
***เป็นวัฐจักร PDCA หมุนขึ้นไปหาเป้าหมาย…
สมมุติว่าเราวางเป้าหมายไว้ว่า จะต้องเล่นหุ้นให้ได้กำไรเดือนละไม่ต่ำกว่า 5%
5% คือเป้าหมาย เก็บข้อมูลเป็นกราฟง่ายๆ ก็ได้ครับ เป็น KPI สำหรับวัดผลตัวเราเอง
KPI = Key Performance Indicator

No comments:

Post a Comment